คิดว่าหลายๆ คนคงสงสัยว่า รูกุญแจที่อยู่ริมคอนโซนด้านซ้ายมีไว้ทำไม ถ้าเราเสียบกุญแจแล้วหมุนจะเกิดอะไรขึ้น แล้วสัญลักษณ์ที่อยู่ใกล้ๆ รูกุญแจคืออะไร เรามาหาคำตอบกัน….
ก่อนอื่นเลยสวิตช์หรือรูกุญแจที่เราเห็น คือ “สวิตช์ปิดถุงลมนิรภัย” โดยทั่วไปรถยนต์ส่วนใหญ่จะมีสวิตช์เปิด-ปิดถุงลมนิรภัยติดตั้งอยู่ที่บริเวณด้านข้างของแผงคอนโซน (ฝั่งผู้โดยสาร) โดยปกติการทำงานของถุงลมนิรภัยจะได้รับการออกแบบมาเพื่อผู้ใหญ่เท่านั้น ซึ่งสามารถช่วยป้องกันอันตรายและบรรเทาอาการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุได้
แต่รู้หรือไม่ว่า…เมื่อเกิดอุบัติเหตุเซ็นเซอร์การทำงานของ ถุงลมนิรภัย ตรวจจับเเรงสั่นสะเทือนเเละพุ่งพองตัวออกมาอย่างรวดเร็วและมีความรุนแรงมาก เพื่อช่วยลดแรงกระแทกและช่วยชีวิตผู้ประสบเหตุ แต่ในทางกลับกันถ้าคนนั่งบนเบาะไม่ใช่ผู้ใหญ่การป้องกันการกระแทกจากถุงลมนิรภัยอาจเปลี่ยนเป็นทำให้เกิดอันตรายได้
แล้ว “สวิตช์ปิดถุงลมนิรภัย” จะใช้ตอนไหน???
มีคำเตือนจากคู่มือการใช้รถซึ่งระบุว่าไม่ควรให้เด็กเล็ก หรือเด็กที่มีความสูงต่ำกว่า 140 ซม.นั่งด้านหน้ารถ หรือให้นั่งตักผู้ใหญ่ตรงที่นั่งผู้โดยสารด้านหน้าแม้ว่าจะรัดด้วยเข็มขัดนิรภัยก็ตาม หรือเเม้แต่การวางเด็กซึ่งนั่งอยู่บนเบาะรองนั่งเสริม ที่นั่งสำหรับเด็กแบบหันไปทางด้านหลัง บนที่นั่งผู้โดยสารด้านหน้าก็เป็นเรื่องที่ไม่สมควร เพราะเมื่อ ถุงลมนิรภัย ระเบิดออกมามันจะพุ่งอัดเข้าไปที่าบริเวณใบหน้าของเด็กขณะนั่งเต็มแรง รวมถึงคนแก่หรือผู้ที่กำลังป่วยก็อาจได้รับอันตรายจาก ถุงลมนิรภัย จนได้รับอันตรายด้วยเช่นกัน
แต่ถ้าจำเป็นจริงๆ เราสามารถปิดการใช้งานถุงลมด้านหน้าผ่านสวิตช์ปิดถุงลมนิรภัยที่เป็นรูกุญแจเนื่องจากหากถุงลมเกิดพองขึ้นอาจจะเกิดอันตราย ส่งผลทำให้เด็กได้รับบาดเจ็บร้ายแรง จนถึงขั้นเสียชีวิตได้ ฉะนั้นหากมีเด็กเล็กโดยสารไปในรถด้วย เราขอแนะนำให้ผู้ขับขี่ควรวางให้เด็กนั่งที่เบาะแถวหลังหรือวางคาร์ซีทในเบาะแถวหลัง เพราะจะปลอดภัยที่สุด
ความเร็วเท่าไหร่ถุงลมถึงจะทำงาน
สำหรับความเร็วที่จะทำให้ถุงลมนิรภัยพองตัวนั้น พบว่าต้องมีความเร็วมากกว่า 20 กม./ชม. และการทำงานของถุงลมนิรภัยจะพองตัวเมื่อรถยนต์ชนกับเสารถยนต์ประมาณ 30 กม./ชม. สำหรับการชนกับรถที่จอดอยู่กับที่ ชนกับกำแพง ชนคอนกรีต หรือชนนอกศูนย์กลางด้านหน้า ความเร็วของรถยนต์ต้องมากกว่า 40 – 50 กม./ชม. จึงจะทำให้ถุงลมนิรภัยพองตัวมีการทำงานเกิดขึ้น
photo : google.com