More

    มาดูกันว่า Honda City Hatchback S+ SV RS 2021 ซื้อรุ่นไหนคุ้มและน่าใช้กว่ากัน??

    ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก หลังจากเปิดตัว Honda City Hatchback 2021 ทั้ง 3 รุ่นย่อย ไปเมื่อปลายปีที่แล้ว

    ก่อนตัดสินใจซื้อหรือไม่ วันนี้ Car2Day.com จะมาเปรียบเทียบให้เห็นกันชัดๆเลยว่า แต่ละรุ่นมีข้อแตกต่างกันอย่างไร รุ่นไหนคุ้มค่าและน่าใช้กว่ากัน จุดเด่นและข้อเสียมีอะไรกันบ้าง

    จากกระแสฟีดแบ็ค ความคิดเห็นต่างๆที่เข้ามา หลายคนจะมีความเห็นว่าราคาสูงเกินไปไหม  เมื่อเทียบสมรรถนะกับรุ่นอื่นๆ ในค่ายเดียวกันอย่างเช่น Honda jazz นั้น ทำให้ถูกมองว่าทางฮอนด้าได้ผลิตเจ้า Honda City Hatchback ขึ้นมาเพื่ออะไร จึงเกิดการเปรียบเทียบขึ้นมาว่าเจ้าตัวนี้มีดีกว่า Honda Jazz อย่างไร  หรืออีกกระแสก็มองว่า Hatchback ก็คือ Jazz อีกเวอร์ชั่นใหม่ที่ปรับโมเดลให้รูปทรงดูสปอร์ตขึ้น คล่องตัวมากขึ้น ดีไซน์ทันสมัยขึ้น โดยเปลี่ยนจากรูปทรงเดิมที่เหมือนกล่อง โมเดลเดิมๆ ตั้งแต่ปี 2015 ให้มีความทันสมัยสปอร์ตขึ้น บางกระแสก็ว่าไม่แตกต่าง เห็นราคาแล้วหลายคนก็มองว่าแพงเกินไปรึป่าว  งั้นเรามาดูกันว่า ด้วยราคานี้ เราได้อะไรเพิ่มขึ้นมา ราคาสมเหตุสมผลหรือไม่ ในทั้ง 3 รุ่นนี้และมีข้อแตกต่างกันอย่างไร

    Honda City Hatchback 2021 (ฮอนด้า ซิตี้ แฮทช์แบ็ก 2021) เพิ่งเปิดตัวในไทยไปเมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2020 ที่ผ่านมา ด้วยทรงหน้าทรงเดิม แต่ปรับตัวถังเป็น 5 ประตู พร้อม 3 รุ่นย่อย คือ

    Honda City Hatchback 2021
    รุ่น ราคา
    Honda City Hatchback S+ 599,000
    Honda City Hatchback SV 675,000
    Honda City Hatchback RS 749,000

     

    ด้วยราคาที่แตกต่างระหว่างตัวธรรมดาและตัวท๊อปถึง 150,000 บาท เราได้อะไรเพิ่มขึ้นมาบ้าง มาเปรียบเทียบกัน

    หมายเหตุ – ราคา ณ ปัจจุบัน อัตเดตล่าสุดเมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2564 สามารถตรวจสอบรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Honda thailand

    Honda City Hatchback รุ่น S+  ราคา 599,000 บาท

    • ล้ออัลลอยขอบ 15 นิ้ว
    • ไฟหน้าโปรเจคเตอร์
    • ระบบปิดไฟหน้าอัตโนมัติเมื่อดับเครื่องยนต์
    • Daytime Running Light
    • ไฟท้าย LED และไฟเบรกดวงที่ 3
    • กระจังหน้าแบบโครเมี่ยม
    • สปอยเลอร์หลัง
    • มือจับด้านนอกและกระจกมองข้างสีเดียวกับตัวรถ
    • กระจกมองข้างปรับไฟฟ้า
    • ที่ปัดน้ำฝนด้านหลัง
    • เสาอากาศครีบฉลาม
    • เบาะผ้า
    • คอนโซลหน้าตกแต่ง Piano Black
    • Push Start ,Idle Start-Stop
    • พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น ปรับ 4 ทิศทาง
    • ช่อง USB ด้านหน้า 1 ตำแหน่ง
    • กระจกมองหลังแบบตัดแสง
    • ช่องเก็บของหลังเบาะนั่งผู้โดยสารหน้า
    • เครื่องเสียงวิทยุ
    • เชื่อมต่อ Bluetooth
    • ลำโพง 4 USB 1 ช่อง
    • ระบบเบรกมือไฟฟ้า (Electric Parking Brake)
    • ระบบจับเบรคอัตโนมัติ (Auto Brake Hold)
    • ถุงลมคู่หน้า และด้านข้าง
    • ระบบป้องกันล้อล็อก (ABS) และระบบกระจายแรงเบรก (EBD)
    • ระบบช่วยควบคุมการทรงตัวขณะเข้าโค้ง (Vehicle Stability Assist – VSA)
    • ระบบช่วยการออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน (Hill Start Assist – HSA)
    • สัญญาณไฟฉุกเฉินอัตโนมัติขณะเบรกกะทันหัน (Emergency Stop Signal  – ESS)

     

    Honda City Hatchback รุ่น SV ราคา 675,000 บาท (ราคาบวกจาก S+ 76,000 บาท)  ได้อะไรเพิ่มบ้าง

    • มือจับนอกสีโครเมียม
    • ไฟเลี้ยวที่กระจกมองข้าง
    • เบาะหนังแท้ผสมหนังสังเคราะห์
    • มือจับด้านในโครเมียม
    • ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ
    • มาตรวัดเรืองแสงสีขาว
    • พนักเท้าแขนด้านหน้า
    • รองรับส่งการด้วยเสียง (SIRI)
    • กล้องมองหลัง
    • จอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว

     

    Honda City Hatchback รุ่น RS ราคา 749,000 บาท (ราคาบวกจาก S+ 150,000 บาท / ราคาบวกจาก SV 74,000 บาท)  ได้อะไรเพิ่มบ้าง

    • มาตรวัดเรืองแสงสีแดง
    • ช่องจ่ายไฟด้านหลัง 2 ตำแหน่ง
    • พนักวางแขนพร้อมที่วางแก้ว
    • ลำโพง 8 ตัว
    • Honda Connect
    • ม่านถุงลมด้านข้าง
    • ล้ออัลลอย 16 นิ้วสีดำ
    • กระจังหน้าสีดำเงา
    • กันชนหน้าทรงสปอร์ต
    • สปอยเลอร์หลังตกแต่งสีดำ
    • มือจับด้านนอกสีเดียวกับตัวรถ
    • ไฟตัดหมอก LED
    • กระจกมองข้างสีดำ
    • เบาะหนังกลับ,ผ้า,หนังสังเคราะห์แถบสีแดง
    • Paddle Shift
    • Cruise Control

    ชุดแต่งเสริมหล่อ

    1. Modulo Aero Package ราคา 16,900 บาท ประกอบด้วย สเกิร์ตหน้า 2 ชิ้น สเกิร์ตข้าง 2 ชิ้น และสเกิร์ตหลัง 2 ชิ้น
    2. Modulo Aero Sport Package ราคา 21,500 บาท ได้เช่นเดียวกับแพคแรก เพิ่มเติมเป็นชุดตกแต่งสปอยเลอร์หลัง

    จากการเปรียบเทียบ options ของแต่ละรุ่นแล้ว ก็ขึ้นอยู่กับลักษณะการใช้งานของตัวเราเอง หากอยากใช้แบบธรรมดาๆ ไม่ได้อยากได้อะไรมาก หรืออาจจะเอาไปตกแต่งเอง รุ่น S+ ก็ได้ หรืออยากได้แบบจัดเต็มมาให้แล้วไม่ต้องไปแต่งเพิ่มอะไรเลย เสริมแพคสปอร์ตรอบคันก็ RS ไปเลย หรือจะกึ่งๆ กลางๆ มาพร้อมกับตกแต่งเองอีกนิดหน่อยก็ SV แล้วแต่ความต้องการของผู้ใช้

    ข้อดี 

    1.พื้นที่ใช้สอยกว้าง ห้องโดยสารที่มีขนาดกว้าง ทำให้สามารถเก็บหรือขนสัมภาระได้มาก

    2.ความคล่องตัวในการขับขี่ ด้วยตัวรถที่ท้ายสั้นและรูปทรงเฉี่ยว ทำให้การคล่องตัวในการเข้าโค้งทำได้ดี

    3.ช่วงเก็บของกว้างขึ้น ด้านท้ายรถสามารถพับเบาะ เพื่อเพิ่มพื้นที่ในการเก็บของมากขึ้น

     

    ข้อเสีย

    1.เก็บเสียงและกลิ่นได้ไม่ดีเท่ารุ่นซีดาน

    2.แอร์เย็นช้ากว่ารุ่นซีดาน เนื่องจากตัวรถกว้าง ห้องโดยสารกว้าง

    3.ความรู้สึกปลอดภัยน้อยกว่า เนื่องจากท้ายรถสั้น ทำให้เกิดความรู้สึกเหมือนรถด้านท้ายจะประชิดตัว

    4.ประหยัดน้ำมันน้อยกว่า จากประสบการณ์ทดสอบขับประหยัดในรถหลายรุ่น เป็นที่น่าสังเกตว่า รถแฮทช์แบ็คจะกินน้ำมันกว่ารถซีดานยู่เล็กน้อย ไม่เกิน 0.5 ก.ม./ลิตร

     

    สรุปได้ว่า รถ แฮทช์แบ็ค มีดีที่พื้นที่ใช้สอยมากกว่า ซึ่งก็มีข้อเสียอยู่ไม่น้อย แต่ก็ไม่ถึงกับรับไม่ได้ ด้วยรูปทรงและดีไซน์ที่ทันสมัยน่าใช้ ก็ต้องมาเลือกดูว่าตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คุณได้มากแค่ไหน 

     

     

     

    ที่มา – Honda Thailand  ,Ridebuster

     

     

    ABOUT THE AUTHOR

    Latest Posts