General Motor เดินหน้ารุกตลาดรถพลังไฟฟ้าแบบเต็มตัวแล้ว ทางบริษัทเตรียมตัวเปิดตัว Chevrolet Bolt กับ Bolt EUV ในปี 2022
มันมีรูปทรงที่บึกบึน ในราคาที่สมเหตุสมผล วิ่งได้อย่างน้อย 250 ไมล์ (402 กม.) โดย Bolt เป็นส่วนหนึ่งในแผนการตลาดของ GM ที่ต้องการปล่อยรถไฟฟ้าทั้งหมด 30 รุ่นภายในปี 2025 ถึงแม้ว่ามันจะไม่ได้หรูหราเหมือนกับ Cadillac Lyriq หรือ GMC Hammer EV แต่มันถือว่ามีบทบาทสำคัญต่อบริษัทในการมุ่งเน้นการผลิตรถไร้มลพิษออกมาเพื่ออนาคต
ตั้งแต่เปิดตัวเมื่อปี 2017 Bolt ถือเป็นรถรุ่นที่ถือว่าประสบความสำเร็จมากที่สุดของบริษัท ด้วยยอดขายมากกว่า 100,000 คันทั่วโลก และที่สำคัญก็คือ 75% ของผู้ซื้อคือลูกค้าที่ซื้อรถของ GM เป็นครั้งแรก
Chevrolet ต้องการที่จะสานต่อความสำเร็จนี้ให้กับรถไฟฟ้าแฮตช์แบ็คด้วยการทำให้มันมีหน้าตาล้ำยุค ด้วยการปรับโฉมหน้ารถใหม่ ลดขนาดกระจังหน้าลง ทำให้กระโปรงรถดูเด่นขึ้น เช่นเดียวกับด้านหลังรถ ที่มีความโค้งมนของกันชน ประตูหลังออกแบบใหม่ให้เข้ากับไฟท้ายที่มีสไตล์
สำหรับรุ่นที่จะออกใหม่ในปี 2022 Bolt จะมาพร้อมกับพวงมาลัยแบบใหม่ หน้าปัดที่เป็นแบบดั้งเดิมมากขึ้น มีหน้าจอแสดงผลแบบดิจิทัลขนาด 8 นิ้ว พร้อมกับหน้าจอความบันเทิงที่อัปเกรดเป็นขนาด 10.2 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay รวมทั้งแอ๊พอย่าง Alexa, Spotify และ The Weather Channel
สำหรับ Bolt EUV ก็คล้ายกัน มีการปรับโฉมหน้าใหม่รวมทั้งด้านท้าย มีราวหลังคาให้ด้วย ไฟท้ายโดดเด่นมาก มีขนาดยาวกว่า 6.3 นิ้ว (160 มม.) ฐานล้อยืดออกไปอีก 2.9 นิ้ว (74 มม.) ทำให้ห้องโดยสารมีพื้นที่เพิ่ม 39.1 นิ้ว (993 มม.) ทำให้มันมีพื้นที่ใหญ่กว่า Bolt สำหรับพื้นที่สำหรับเก็บของ ทั้ง 2 รุ่นมีของความจุประมาณ 57 ตารางฟุต (1,614 ลิตร)
Bolt EUV มีอุปกรณ์ที่ติดตั้งมาให้ลูกค้าเหนือกว่า ถือเป็น Chevrolet รถไฟฟ้ารุ่นแรกที่มีระบบช่วยเหลือคนขับ Super Cruise semi-autonomous driving ส่วนระบบช่วยเหลือคนขับของทั้ง 2 รุ่นที่มีมาให้เป็นมาตรฐานได้แก่ Automatic Emergency Braking, Forward Collision Alert, Front Pedestrian Braking, Lane Keep Assist with Lane Departure Warning, Adaptive Cruise Control, Rear Cross Traffic Alert และ HD Surround Vision system
ทั้ง 2 รุ่นใช้แบตเตอรี 65 กิโลวัตต์ ให้พลังจากมอเตอร์ไฟฟ้า 201 ม้า (150 kW / 203 PS) แรงบิด 266 ปอนด์-ฟุต (360 นิวตันเมตร) Bolt วิ่งได้ประมาณ 259 ไมล์ (416 กม.) จากการชาร์จครั้งเดียว ส่วน Bolt EUV ที่มีขนาดใหญ่กว่าและน้ำหนักมากกว่า สามารถวิ่งได้ 250 ไมล์ (402 กม.)
ทั้ง 2 รุ่นมีระบบชาร์จเร็ว โดย Bolt วิ่งได้ 100 ไมล์ (161 กม.) ส่วน Bolt EUV วิ่งได้ 95 ไมล์ (153 ไมล์) จากการชาร์จ 30 นาที สามารถชาร์จไฟบ้านได้ ด้วยกำลังไฟ 240 โวลต์ ใช้เวลาชาร์จประมาณ 7 ชั่วโมง
Bolt และ Bolt EUV พร้อมจำหน่ายในปีนี้ แบบแฮทช์แบ็คราคาเริ่มต้นที่ $31,995 (ประมาณ 9.6 แสนบาท ไม่รวมภาษี) ถูกกว่า $5,500 (ประมาณ 1.6 แสนบาท) เมื่อเทียบกับรุ่นของเมื่อปีที่แล้ว ส่วน Bolt EUV ราคาเริ่มต้นที่ $33,995 (ประมาณ 1 ล้านบาท ไม่รวมภาษี) เป็นราคาที่ไม่แพงเกินไปเลยสำหรับคนที่ต้องการรถที่มีพื้นที่กว้างมากกว่า Bolt แบบธรรมดา
Chevrolet ยังมีอ็อปชั่นของ Bolt EUV ให้เลือกตอนที่ออกใหม่ด้วย มันจะมีตราแบบพิเศษ ล้อแบบพิเศษ และหลังคา panoramic sunroof ที่ชาร์จเรืองแสง และระบบช่วยเหลือคนขับ Super Cruise semi-autonomous ซึ่งรุ่นนี้ที่มาพร้อมอุปกรณ์พิเศษราคาอยู่ที่ $43,495 (ประมาณ 1.3 ล้านบาท ไม่รวมภาษี)
source : carscoops.com
